ตามรอยเงินไหลเข้า ด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป Global Flow

นักลงทุนเคยสงสัยกันไหมว่า ช่วงนี้ SET เทรดยาก เพราะแนวโน้มไม่ชัดเจน เม็ดเงินก้อนใหญ่ไม่ไหลเข้ามา แรงผลักดันตลาดบ้านเราจึงน้อย หากเราลองมองในภาพกว้างขึ้นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่นำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นประเทศไหนกัน จะลงทุนตอนนี้เลือกประเทศไหนดี ?

มันจะดีแค่ไหนกันนะ หากเราสามารถวิเคราะห์ตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ที่นักลงทุนนิยมเทรดกันอยู่ได้ด้วยตัวเอง ผ่านฟังก์ชันสำเร็จรูป Global Flow บนโปรแกรม efin StockPickUp เพื่อแสวงหาโอกาสและสร้างความได้เปรียบในการลงทุน

ซึ่งการใช้ฟังก์ชัน Global Flow ได้ใช้ผ่านโปรแกรม efin StockPickUp โดยนักลงทุนสามารถทดลองใช้งาน ในระดับแพ็กเกจ Platinum ได้ฟรี 15 วัน คลิกที่นี่

หรือท่านที่มีพอร์ตอยู่แล้ว สามารถติดต่อขอใช้งานกับโบรกเกอร์ได้ฟรี
เช็กรายชื่อโบรกเกอร์ที่สามารถใช้บริการโปรแกรม efin StockPickUp ได้โดย คลิกที่นี่

เทคนิคการตามรอยเม็ดเงินว่าไหลเข้าตลาดหุ้นประเทศไหนเริ่มจากการดูผ่านกองทุน และข้อมูลที่เป็นตัวแทนประเทศต่างๆ ดังนี้

1. เงินไหลเข้าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่างสินค้าโภคภัณฑ์
2. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นจีน
3. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นเวียดนาม
4. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นยุโรป
5. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
6. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดีย

วิธีการเปิดฟังก์ชันสำเร็จรูป

1. เปิดโปรแกรม efin StockPickUp
2. คลิกที่ Templete
3 คลิกที่ Global Flow

เอาล่ะ พร้อมแล้วไปดูกันเลย..

1. เงินไหลเข้าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

อย่างสินค้าโภคภัณฑ์

กองทุน PRINCIPAL GCF-D นี้เป็นตัวแทนของสินทรัพย์ทางเลือกที่ลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ได้หลากหลายทั้ง กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ตราสารทุนนอกตลาด และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ
เช่น ทองคำ น้ำมัน เป็นต้น

– หากกราฟปรับตัวสูงขึ้น แสดงว่านักลงทุนเลือกลงทุนและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น

– และปัจจุบันกราฟลดลง แสดงว่า นักลงทุนนำเงินไปลงทุนตลาดอื่นที่ผลตอบแทนดีกว่า คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง

2. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นจีน

กองทุน KCHINARMF เป็นกองทุนที่เป็นตัวแทนการลงทุนในตลาดหุ้นจีน เนื่องจากลงทุนในกองทุนหลัก ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่ตั้งถิ่นฐานหรือดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน

-หากกราฟเป็นแนวโน้มขาขึ้น หรือเริ่มรีบาวด์ในปัจจุบันแสดงว่า นักลงทุนกำลังสนใจลงทุนหุ้นในจีน

-และเมื่อกราฟเป็นแนวโน้มขาลง แสดงว่า นักลงทุนขายออกและนำเงินไปลงทุนประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า

3. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นเวียดนาม

FUEVFVND01 ประเภท DR ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงที่ลงทุนในดัชนี VN diamon ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม จึงสามารถใช้เป็นตัวแทนการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามได้

– ปัจจุบันกราฟเริ่ม Break ออกนอกกรอบ Sideway แสดงว่านักลงทุนเริ่มกลับมาสนใจตลาดหุ้นเวียดนามอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

– หากกราฟเป็นแนวโน้มขาลง แสดงว่า นักลงทุนขายหุ้นที่เวียดนามและนำเงินไปลงทุนตลาดอื่นที่น่าสนใจกว่า

4. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นยุโรป

กองทุน SCBRMEU มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี STOXX Europe 600 เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี STOXX Europe 600

– ปัจจุบันกราฟเป็นแนวโน้มขาขึ้น แสดงว่า นักลงทุนนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป

– หากกราฟเป็นแนวโน้มขาลง แสดงว่า นักลงทุนขายหุ้นในตลาดยุโรปไปลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอื่น

5. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา

กองทุน K-USXNDQ-A(A) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนให้มีผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นสหรัฐ NASDAQ-100 จึงสามารถใช้เป็นตัวแทนตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาได้

– กราฟปัจจุบันเป็นแนวโน้มขาขึ้น แสดงว่านักลงทุนนำเงินเข้ามาลงทุนในหุ้นสหรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ

– หากกราฟเป็นแนวโน้มขาลงในอนาคต แสดงว่านักลงทุนขายหุ้นออกจากตลาดสหรัฐ

6. เงินไหลเข้าตลาดหุ้นอินเดีย

กองทุน TISCOIN มีนโยบายการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศอินเดีย หรือบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจในประเทศอินเดีย หรือบริษัทที่มีรายได้หลักจากการประกอบกิจการในประเทศอินเดีย

– ปัจจุบันนักลงทุนสนใจลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียมากขึ้น กราฟเป็นแนวโน้มขาขึ้น

– หากอนาคต กราฟเป็นแนวโน้มขาลง แสดงว่านักลงทุนไม่สนใจที่จะลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียแล้ว