จะลงทุนซื้อหุ้นทั้งที ซื้อหุ้นแบบไหนได้กำไรชัวร์ๆ

คำว่า “กำไร” ไม่มีใครไม่อยากได้ใช่มั้ยล่ะคะ การที่เราจะได้กำไรนั้น มันก็ไม่ได้ง่ายเลย…
แต่กำไรก็ไม่ยากมากมายเช่นเดียวกัน…ถ้าเรามีแผนไปดูกันเลยค่ะ

ทีนี้ เราจะเลือกซื้อหุ้นยังไง ให้ได้กำไรชัวร์ๆ

มาดูกัน

1. เพิ่มโอกาสสร้างกำไรให้กับตัวเองตั้งแต่

ตอนเลือกหุ้น

สำหรับการหาโอกาส ของนักลงทุน ก็คงหนีไม่พ้น การหารูปแบบราคาต้นเทรนด์ หรือที่เรียกกันว่าหุ้นรีบาวด์ เป็นการค้นหาหุ้นที่มีรูปทรงการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลง เป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะเริ่มต้น

และจะดีกว่าไหมถ้านักลงทุนที่เป็นสาวกโปรแกรม efin StockPickUp คุณสามารถใช้ function Scan เพื่อค้นหาหุ้นได้ตามที่เราต้องการ เอาล่ะมาเริ่มกันเลย

เทคนิคการใส่เงื่อนไขเพื่อให้ได้หุ้น

ต้นเทรนด์

1. เปิดโปรแกรม efin StockPickUp ซึ่งเพื่อนๆนักลงทุนสามารถสมัครทดลองใช้และทำไปพร้อมกันได้ >> คลิกที่นี่

2. เปิดฟังก์ชัน Scan

3. ใส่ Condition หรือเงื่อนไข ดังนี้

– EMAV5 > EMAV10

– EMAV15 < EMAV25

– EMAV35 < EMAV50

– EMAV75 < EMAV200

– AvgVal5 (k฿) > 10,000 หมายถึง หุ้นที่สแกนติดต้องมีมูลค่าซื้อขายห้าวันที่ผ่านมามากกว่า 10 ล้านบาท

– AccVol > AvgVol5 หมายถึง ปริมาณการซื้อขายสะสมมากกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 5 วันที่ผ่านมา

ตัวอย่าง : ตัวอย่างตามภาพเป็นตัวอย่างของฟังก์ชันที่สแกนหุ้นติด เมื่อเรานำหุ้นดังกล่าวมาดูในกราฟเทคนิค เช่น
หุ้น ANAN เราจะเห็นว่าราคากำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วงต้นเทรนด์ของแนวโน้ม

2. แบ่งขายออกบ้างเมื่อราคาถึงแนวต้าน

เทคนิคนี้เป็นการดึงกำไรออกบางส่วนเป็นระยะ เพื่อป้องกันหุ้นขึ้นไม่จริงหรือหุ้นลงแรง แต่นักลงทุนไม่ควรขายหมดเนื่องจาก รูปทรงกราฟยังอยู่ในภาพแนวโน้มขาขึ้นอยู่

ส่วนเทคนิคการขายนั้นส่วนมากมักจะทยอยขายในระดับแนวต้าน ซึ่งเป็นแนวราคาที่มีนัยสำคัญ เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมาถึง แนวต้าน มักจะมีแรงเทขายหุ้นออกมา ยกตัวอย่างการแบ่งขายทีละ 20% ในทุกแนวต้าน

นักลงทุนสามารถปรับเปลี่ยนการหาแนวต้าน หรือการแบ่งเปอร์เซ็นต์ได้ตามกลยุทธ์ของแต่ละบุคคล และหากนักลงทุนเป็นมือใหม่มากๆ ก็แนะนำให้ใช้งาน Indicator Zigzag ตั้งค่า 1.5% ในกราฟรายวัน เพราะการใส่ Indicator Zigzag นี้ เป็นตัวช่วยที่ดี ในการแก้ไขปัญหาการมองรูปร่างไม่ออก

3. หากราคาหุ้นไม่ขึ้นตามที่เราคาดการณ์

Stop Loss

การหาจุด Stop loss ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถทำได้หลากหลายวิธี

วิธีตามรูปเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นักลงทุนสามารถประยุกต์ใช้ Indicator Zigzag (ที่ตั้งค่าเรียบร้อยแล้วตามข้อ 2)

โดยการดูตำแหน่ง Stop loss ที่ฐานรูป Vshape (ฐานแหลมแหลมคล้ายรูปตัว V) ในตำแหน่งล่าสุดที่ใกล้กับราคาที่เราซื้อตอนต้นเทรนด์

4. แบ่งเงินตั้งแต่ตอนซื้อเพื่อควบคุม

ความเสี่ยง

ในกรณีนี้นักลงทุนต้องทราบ

4.1 ราคาที่จะซื้อ ตัวอย่างคือ 3 บาท

4.2 ราคาที่จะ Stop loss ตัวอย่างคือ 2 บาท

4.3 การหาราคาเมื่อเราขาดทุน นำราคาที่จะซื้อและราคาที่จะ Stop loss มาลบกัน 3-2 = 1 (ขาดทุน 1 บาท ต่อ หุ้น)

4.4 กำหนดวงเงินที่จะซื้อตามตัวอย่าง 10,000 บาท

4.5 กำหนดเปอร์เซ็นต์การขาดทุนที่เรายอมรับได้ ตามตัวอย่างยอมรับการขาดทุนได้ 7% = 700 บาท

4.6 คำนวณหาจำนวนหุ้นที่เราควรซื้อในครั้งนี้โดยการนำจำนวนเงินที่สามารถขาดทุนได้ 700 บาท นำมาหารด้วยราคาขาดทุนต่อหุ้น (700/1 = จำนวนหุ้นที่ควรซื้อ 700 หุ้น หมายความว่าหากราคาลงมาที่ จุด Stop loss เราจะเสียหายไม่เกิน 700 บาท ตามที่เราวางแผนไว้)