เทคนิคเล่นหุ้นที่มือใหม่ควรรู้

หากคุณเป็นนักลงทุนในสิ่งที่คุณควรต้องศึกษาก่อน เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าประสบการณ์หรือบทเรียนราคาแพง จะต้องเริ่มจากอะไร เอาล่ะ ไปดูกันเลย..

นักลงทุนสามารถสมัครทดลองใช้และทำไปพร้อมกันได้โดย คลิกที่นี่

1. ควรรู้จักตัวเอง ว่าตัวเองเป็นนักลงทุน

ประเภทใดดังต่อไปนี้

นักลงทุนสายพื้นฐาน Value Invertor หรือ VI
เป็นกลุ่มนักลงทุนที่ชอบวิเคราะห์ธุรกิจเป็นหลักเช่นงบการเงินหา มูลค่าที่แท้จริงของหุ้นมากกว่าราคาตลาด ความคุ้มค่าเหมาะสมกับราคา นักลงทุนสายนี้ ไม่เน้นซื้อขายหุ้นแบบบ่อยแต่จะเน้นการซื้อในจังหวะที่ตัวเองคิดว่าได้เปรียบทางด้านราคาหุ้นเป็นหลัก
นักลงทุนสายเทคนิค Techical
นักลงทุนที่เน้นดูรูปร่างรูปทรงร่วมกับการวิเคราะห์อินดิเคเตอร์ นักลงทุนกลุ่มนี้จะไม่สนใจงบการเงินหรือมูลค่าที่แท้จริง จะเน้นหาจุดซื้อขายที่ได้เปรียบเหมือนกับเทคนิค
นักลงทุนสายผสมพื้นฐานกับเทคนิค Hybrid
นักลงทุนกลุ่มนี้จะได้เปรียบมากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะสามารถวิเคราะห์มูลค่าของบริษัทและวิเคราะห์ทางด้านกราฟเทคนิคได้ การลงทุนก็จะเน้นหุ้นราคาถูกในจังหวะราคาที่ต่ำ และให้ผลตอบแทนสูง

2. ลงทุนมือใหม่ควรรู้จัก Stop loss

Stop loss คือหยุดการขาดทุน ส่วนมากแล้วนักลงทุนมือใหม่ จะติดกับดักในส่วนนี้ มันเข้ามาในตลาดหุ้นก็คาดหวังกำไรเพียงด้านเดียว เมื่อซื้อหุ้นไปแล้ว มักจะปล่อยนิ่งเฉย ทำให้ขาดทุนแบบไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อความอดทนนั้นหมดจึงขายออกในราคาที่ต่ำมากกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วนักลงทุนจึงเริ่มศึกษา Stop loss แต่ที่จริงแล้วเราควรศึกษา Stop loss ก่อนที่จะลงทุนด้วยซ้ำ ดังรูปนักลงทุนมือใหม่จะเห็นว่า เรามีเงินตั้งต้น 10,000 บาท แล้วเราขาดทุน 50% การที่เราจะให้เงินต้นกลับมาเป็น 10,000 บาทอีกครั้งนั้น จะต้องมีความสามารถในการหาเมื่อคืนถึง 100% เลยทีเดียว

3. นักลงทุนมือใหม่ควรรู้จักหุ้น

ที่ตัวเองลงทุน

หลายคนซื้อหุ้นตามคนอื่น โดยที่ไม่รู้จักหุ้นของตัวเองเลยว่า ทำมาค้าขายเกี่ยวกับอะไรมีธุรกิจหลักอย่างไร การที่นักลงทุนซื้อหุ้นตามคนอื่นก็ไม่แปลก แต่เราอย่าลืมว่าเมื่อเราขาดทุน เราจะไม่สามารถหาคำตอบได้เลยและคนส่วนมากที่บอกให้เราซื้อ ดันไม่ได้บอกตอนขายทำให้เราติดดอย อยู่คนเดียวร่ำไป

สิ่งที่นักลงทุนควรทราบเกี่ยวกับบริษัท นั้นก็คือใครเป็นผู้บริหารมีนักลงทุนหลายท่านที่ลงทุนตามผู้บริหาร เนื่องจากผู้บริหารเป็นคนเก่งมีวิสัยทัศน์ที่ดี ผู้บริหารหลายท่านก็มีประวัติการบริหารที่ไม่ดีเพราะฉะนั้นสิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กันนั่นก็คือต้องทำความรู้จักผู้บริหารไว้

ฝึกวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเองเริ่มจากสิ่งที่เราชอบในช่วงแรกอาจจะขาดทุนบ้าง ได้กำไรบ้างแต่สิ่งที่ได้รับคือประสบการณ์ สิ่งที่เราทำผิดพลาดจะสอนให้เรารู้และเก่งขึ้น เป็นนักลงทุนที่อยู่ในตลาดทุนได้อย่างยั่งยืน