4 เทคนิคการใช้งาน Volume Analysis ให้เกิดประโยชน์
พฤษภาคม 11, 2023 2023-09-13 11:344 เทคนิคการใช้งาน Volume Analysis ให้เกิดประโยชน์
4 เทคนิคการใช้งาน Volume Analysis ให้เกิดประโยชน์
VA คือฟังก์ชันที่ใช้วิเคราะห์ต้นทุนในการซื้อขาย และเป็น 1 ใน 15 ฟังก์ชันฮิตบน efin StockPickUp ที่มีผู้ใช้งานหลักแสนอีกด้วย และจะใช้งานยังไงให้เกิดประโยชน์สูงสุด? 4 เทคนิครออยู่ มาอ่านกันเล๊ยย
เพื่อนๆ สามารถสมัครทดลองใช้และทำไปพร้อมๆ กันได้โดย >> คลิกที่นี่
เปิดดู Volume Analysis อย่างไร?
1. ไปที่แถบเครื่องมือด้านบน คลิกซ้ายเลือกที่Price
2. เลื่อนเม้าส์มาที่หัวข้อ Analysis
3. เลื่อนเม้าส์มาที่หัวข้อ SET
4. คลิกซ้ายที่หัวข้อ Volume Analysis
หมายเหตุ สามารถคลิกเปิด Volume Analysis ง่ายๆโดยคลิกไอคอน VA ที่แถบเครื่องมือด้านขวา
หน้าต่างแสดง Volume Analysis
ครั้งแรก
1. พิมพ์ชื่อหุ้นที่ต้องการค้นหา เช่น PTT
2. กดปุ่ม Enter หรือ คลิกซ้ายที่ชื่อหุ้นที่ต้องการ
หน้าต่างแสดง Volume Analysis หลังพิมพ์ชื่อหุ้น
Last = ราคาล่าสุดของหุ้น
เทคนิคที่ 1 การวิเคราะห์ต้นทุน
ในรอบวันที่สนใจ
- นักลงทุนต้องใส่จำนวนวันที่ต้องการดูข้อมูลย้อนหลังว่าจะดูต้นทุนในรอบกี่วัน ตามตัวอย่างคือ ต้องการดูต้นทุนในรอบ 1 เดือน
-นักลงทุนสามารถย้อนหลังได้สูงสุดคือ 90 วัน
-แต่หากนักลงทุนไม่ได้กำหนดวัน คือจะเป็น 0 คือเป็นข้อมูล intraday คือจะแสดงข้อมูลของวันนี้วันเดียว
- กดปุ่ม Go
เทคนิคที่ 1 การวิเคราะห์ต้นทุน
ในรอบวันที่สนใจ (ต่อ)
3. เมื่อนักลงทุนเลือกวันได้แล้ว เราจะเห็นว่าต้นทุนของนักลงทุนท่านอื่นอยู่ที่ระดับราคาเท่าไหร่บ้าง
4. หากสังเกตุจากราคา Last ตามตัวอย่างหุ้น PTT (ดังรูป) จะเห็นได้ว่า ถ้าเราซื้อหุ้นที่ราคา Last 39.00 บาท ถือว่าต้นทุนเราค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับคนที่ติดอยู่ที่ราคา 39.25-40.25 บาท ก็ถือว่าเราซื้อหุ้นได้ไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ได้ราคาที่ถูกที่สุด
เทคนิคที่ 2 การวิเคราะห์แนวรับ – แนวต้าน
ขั้นตอนการวิเคราะห์แนวรับ- แนวต้านในรอบเวลาที่เราสนใจ ตามตัวอย่างคือ ในรอบ 20 วัน หรือ 1 เดือน
- เอาราคา Last ตั้ง สังเกตุได้จากด้านล่าง **หากนักลงทุนดูในช่วงที่ตลาดเปิดทำการ ราคา Last อาจจะขยับไปมาเนื่องจากเป็นข้อมูลแบบ real-time แบ่งราคาออกเป็นสองฝั่ง ซ้าย – ขวา ถัดจากราคา Last
- แท่งที่สูงที่สุดของฝั่งซ้ายจะเป็นแนวรับ (38.75)
- แท่งที่สูงที่สุดของฝั่งขวาจะเป็นแนวต้าน (39.25)
เทคนิคที่ 3 การ Take action
- จากเทคนิคการวางแนวรับแนวต้านนักลงทุนจะเห็นราคาที่ได้เปรียบอยู่คือ 38.25-38.75 บาทเมื่อเรา follow buy ราคา take profit แรกจะอยู่ที่ 39.25 (สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงมากก็จะขายออกก่อนที่ราคานี้เพราะมองถึงความเสี่ยงเป็นหลัก)
- แต่ถ้ามองในอีกมุมของนักลงทุนที่มองกำไรหากราคา ถึง target ขั้นแรก หรือแนวต้าน 39.25 จะ follow buy เพิ่ม เพราะเชื่อว่าราคาจะไปเล่นกันที่กรอบบนต่อไป
- แต่ถ้าหากราคาไม่ขึ้นตาม target จุด stop Loss จะอยู่ที่ 38.25 หรือนักลงทุนที่เสี่ยงมาก จะอยู่ที่ 37.25 หรือราคา low ที่ต่ำที่สุดในรอบ 1 เดือนนั่นเอง
เทคนิคที่ 4 การดูความสนใจในราคาหุ้น
ของนักลงทุนส่วนใหญ่ในรอบวันและ
สัดส่วนการซื้อ-ขาย
เมื่อนักลงทุนดูรูปทรงทางด้านกราฟเทคนิคประกอบ จะเห็นว่าหากดูที่กราฟเทคนิคราคา High 39.25 มีแท่งเทียน ขึ้นมาทดสอบหลายครั้งแต่ถ้าเราดูจาก VA จะเห็นว่า นักลงทุนให้ความสนใจที่ราคา high 39.25 นั้นเยอะมาก เหมือนพร้อมใจ ซื้อ – ขาย ที่ราคานี้ แต่หากเราวิเคราะห์เป็นสัดส่วนการซื้อ-ขาย จะเห็นได้ว่า ปริมาณการซื้อ- ขายที่ราคาดังกล่าวแบ่งเป็นสัดส่วน ขายมากกว่า ซื้อ สังเกตุได้จาก กล่องการแสดงผลทางด้านซ้ายมือบน
เทคนิคนี้เราใช้โปรแกรมวิเคราะห์หุ้น efin StockPickUp มาใช้ในการช่วยวิเคราะห์
เพื่อนๆ ลองเอาไปใช้ดูกันนะ
สมัครบริการเพื่อใช้งานโปรแกรมได้โดย >> คลิกที่นี่
ค้นหา
โพสต์ล่าสุด
เริ่มต้นลงทุนในวัยหนุ่มด้วย 5 ความพิเศษ
ธันวาคม 4, 2024ยอมตัดขาเพื่อไปต่อ ลดความเสี่ยงด้วยการ Cut Loss
พฤศจิกายน 28, 2024เย็นนี้กินไรดี? ทำไมถึงตอบยากจัง เบื้องหลังการตัดสินใจภายใต้ความเสี่ยง
พฤศจิกายน 19, 2024คอร์สล่าสุด