ทำไมต้อง 168 เลขมงคลยอดฮิต หมายความว่าอย่างไร?
สิงหาคม 28, 2024 2024-08-28 18:07ทำไมต้อง 168 เลขมงคลยอดฮิต หมายความว่าอย่างไร?
ทำไมต้อง 168 เลขมงคลยอดฮิต หมายความว่าอย่างไร?
พวกเราก็คงรู้จักความเชื่อเกี่ยวกับ “เลขมงคล” กันดีอยู่แล้ว
และก็มักจะพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งนอกจากเลข 168 แล้ว
ก็ยังมี 888, 928, 333 อะไรประมาณนี้
โดยเลขมงคลที่เป็นเลข 3 ตัว มักจะมาจากความเชื่อแบบจีน
หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “ฮก-ลก-ซิ่ว”
ซึ่งจริงๆ แล้ว “ฮก-ลก-ซิ่ว” คือเทพเจ้าจีน 3 องค์
ที่แทนความเป็นมงคล 3 ประการ คือ ความมั่งคั่ง อำนาจ และความยั่งยืน
ก็เลยเป็นเหตุผลที่ความเชื่อเลขมงคลแบบจีนจะเป็นเลข 3 ตัวนั่นเอง
แล้วเลข 168 หมายความว่าอะไร
ตัวเลขทั้ง 10 ตัว ในทางความเชื่อจีนจะมีความหมายดังนี้
1 – หนึ่งเดียว
2 – ง่าย
3 – เกิด
4 – ตาย
5 – ฉัน
6 – ทาง
7 – แน่
8 – รวย
9 – นาน 0 – แล้วสิ้น
เพราะฉะนั้น พอเราลองเอามาแปลความหมายตามตัวเลข
168 จะหมายถึง รวยทางเดียว
คือไม่ว่าเราจะทำอะไร ปลายทางมีอยู่ทางเดียวก็คือ เราจะรวย
นอกจาก 168 เพียวๆ 3 หลักแล้ว บางคนอาจจะเพิ่มเลข 8 หรือ 9 เข้าไปอีกตัว
ในกรณีที่เราต้องการใช้เลข 4 หลัก เช่น ป้ายทะเบียนรถหรือรหัสผ่านมือถือ
เพื่อให้ชุดเลขนี้ยังคงอยู่ในหมวด 168 นั่นเอง
โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเจอเลข 168 ในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเงินการลงทุน
ไม่ว่าจะเป็นชื่อร้านค้า ชื่อธุรกิจ หรือชื่อบริษัทต่างๆ
โดยผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba อย่าง Jack Ma
ก็เคยประสบความสำเร็จจากเลขนี้ ด้วยการซื้อเว็บไซต์ www.1688.com
มาบริหารจนดังเป็นพลุแตก และสร้างรายได้อย่างมหาศาล
ซึ่ง 1688 ที่ในสำเนียงแต้จิ๋ว อ่านว่า อี้-หลิว-ปา-ปา
ก็ไปพ้องเสียงชื่อธุรกิจ Alibaba ในปัจจุบันอีกด้วย
ทีนี้เราลองมาดูกันว่า
หุ้นหรือบริษัทในประเทศไทยเจ้าไหน
ที่มีการใช้ตัวเลขอยู่ในชื่อของตัวเองกันบ้าง
เลขที่พวกเขาใช้ จะมีความหมายว่าอย่างไร
และผลประกอบการออกมาสอดคล้องกับตัวเลขเหล่านั้นหรือไม่
หุ้นตัวแรกคือ ATP30 หรือ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน)
เป็นผู้ให้บริการรถโดยสารขนส่งบุคลากรระหว่างแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชน ไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการ
โดยชื่อหุ้นของ ATP30 มีตัวเลข 2 ตัวคือ 3 หมายถึง เกิด และ 0 หมายถึง แล้วสิ้น ซึ่งถ้าเอามาต่อกันเป็น เกิดแล้วสิ้น ก็ฟังดูไม่ค่อยมงคลเท่าไหร่ ทีนี้มาลองดูผลประกอบการว่าเกิดแล้วสิ้นจริงหรือไม่
ดูข้อมูลงบการเงินย้อนหลังช่วงปี 2558-2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 26/8/2567 เวลา 17.50 น.)
-ในด้านรายได้ มีรายได้สม่ำเสมอ แนวโน้มเติบโตขึ้น โดยงบเต็มปีล่าสุดคือ 2566 เป็นปีที่มีรายได้สูงสุด
-ในด้านกำไรสุทธิ มีกำไรทุกปี โดยปีที่มีกำไรสุทธิสูงสุดคือ ปี 2562 โดยตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาก็มีแนวโน้มลดลง
-ส่วนด้านอัตรากำไรสุทธิ (%) ปีที่อัตรากำไรสุทธิสูงสุดคือ ปี 2562 โดยตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมาก็มีแนวโน้มลดลง
แสดงว่าธุรกิจยังอยู่ได้แต่สิ่งที่ต้องระวังคือกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิที่มีแนวโน้มลดลงนั้นจะไปสอดคล้องกับชื่อที่ตัวเลขแปลว่า เกิดแล้วสิ้น จริงหรือไม่
หุ้นตัวที่สองคือ COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)
ประกอบธุรกิจหลักในการค้าปลีกสินค้าไอที ประเภทคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบพกพา สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นผู้ให้บริการศูนย์ซ่อมแซ่มสินค้าแอปเปิ้ล (iCare)
โดยในชื่อ COM7 มีตัวเลข 1 ตัว คือ 7 หมายถึง แน่ ซึ่งหุ้นตัวนี้ก็เป็นหุ้นค้าปลีกสินค้าไอทีที่เป็นที่นิยมของนักลงทุนในตลาด ลองมาดูผลประกอบการว่าจะแน่ตามความหมายชื่อหรือไม่
ดูข้อมูลงบการเงินย้อนหลังช่วงปี 2558-2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 26/8/2567 เวลา 17.50 น.)
-ในด้านรายได้ มีรายได้สม่ำเสมอ แนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี โดยงบเต็มปีล่าสุดคือ 2566 เป็นปีที่มีรายได้สูงสุด
-ในด้านกำไรสุทธิ มีกำไรทุกปี โดยปีที่มีกำไรสุทธิสูงสุดคือ ปี 2565 โดยปี 2566 กำไรลดลงเล็กน้อย
-ส่วนด้านอัตรากำไรสุทธิ (%) ปีที่อัตรากำไรสุทธิสูงสุดคือ ปี 2564 โดยตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมาก็มีแนวโน้มลดลง
แสดงว่าธุรกิจรายได้เติบโตดี แต่ต้องระวังคือกำไรและอัตรากำไรสุทธิที่ลดลงในปี 2566 จะกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นในปี 2567 ได้หรือไม่ ถึงจะเรียกว่า แน่ จริงๆ
หุ้นตัวที่สามคือ S11 หรือ บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือบุคคลธรรมดารายย่อยทั่วไป ซึ่งมีรายได้มั่นคงระดับกลางถึงระดับล่าง
โดยชื่อของ S11 มีตัวเลข 2 ตัว คือ 1 ซ้ำ 2 ครั้ง หมายถึง หนึ่งเดียว ลองมาดูผลประกอบการว่าจะเป็นอย่างไร
ดูข้อมูลงบการเงินย้อนหลังช่วงปี 2563-2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 26/8/2567 เวลา 17.50 น.)
-ในด้านรายได้ มีรายได้ทุกปี แต่แนวโน้มลดลงทุกปี โดยงบเต็มปีที่สูงที่สุดคือปี 2563 หลังจากนั้นก็ลดลงต่อเนื่อง
-ในด้านกำไรสุทธิ มีกำไรทุกปี แต่ลดลงทุกปี ที่น่าสังเกตคือ งบไตรมาส4 ปี 2566 ขาดทุน แสดงว่าเป็นจุดที่ต้องระวังว่าธุรกิจยังดีอยู่หรือไม่
-ส่วนด้านอัตรากำไรสุทธิ (%) งบเต็มปีที่อัตรากำไรสุทธิสูงสุดคือ ปี 2563 โดยตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมาก็มีแนวโน้มลดลง
แสดงว่าธุรกิจรายได้ลดลง ที่ต้องระวังคือกำไรและอัตรากำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2566 ขาดทุน ซึ่งก็ต้องมาลุ้นว่าธุรกิจจะฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่
สรุป
สุดท้ายแล้วก็คงจะบอกแบบฟันธงไม่ได้ว่าการใช้ตัวเลขมงคลในชื่อหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องจะส่งผลต่อรายได้ของกิจการจริงหรือไม่ แต่ที่รู้แน่ๆคือตัวเลขในงบการเงินที่เป็นบวกและเพิ่มขึ้นในทุกๆปี ไม่ว่าผลรวมจะเป็นเลขอะไร มันก็คือ เลขมงคล นั่นเอง…
References :
ภาพงบการเงินจาก efin StockPickUp
ค้นหา
โพสต์ล่าสุด
5ประเภทสินทรัพย์การลงทุน มือใหม่ต้องรู้
กันยายน 11, 2024ทำไมต้อง 168 เลขมงคลยอดฮิต หมายความว่าอย่างไร?
สิงหาคม 28, 2024คอร์สล่าสุด